วันพุธที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

รวมคำกลอนหลวงปู่เปลื้อง ปัญญวันโต (ฉบับสมบูรณ์) ๑๒

โลกนี้มีธรรมเป็นเครื่องค้ำจุน  
          
โลกนี้มีธรรมเป็นเครื่องค้ำจุน         ผู้รู้จักบุญคุณต้องมีความกตัญญู
ครั้งหลวงปู่ไปน้ำกระจาย      ได้ถวายบิณฑบาต         พวกเรามีโอกาส
ได้ตักบาตรหลวงปู่         พอตักบาตรเสร็จแล้ว      พวกเราก็นั่งรับพร
สองมือประนมกร         เราก็นั่งกันพร้อมพรู      เมื่อหลวงปู่ฉันเสร็จ
เราชวนกันรับประทาน      ลูกๆ หลานๆ         ก็แย่งกันน่าดู
ในบาตรของหลวงปู่      ยังมีอยู่ทุกรส         เพราะคลุกเคล้ากันหมด
ผู้ไม่ทานก็ไม่รู้         อาหารคลุกเคล้า         น่าโศกเศร้าสลด
แต่เป็นทิพย์โอสถ         มีกลิ่นรสเชิดชู         เมื่อครั้งแรกเริ่มฝึก

เรารู้สึกระคายคอ         เมื่อถึงคราวที่ไม่พอ         ก็นั่งหัวเราะกันอยู่
หลวงปู่เป็นคนแปลก      ตั้งแต่แรกเป็นคฤหัสถ์      มีทรัพย์สินสมบัติ
ของท่านยังมีอยู่         ท่านทานข้าวกล้องไม่เบื่อ      มีแต่เกลือกับผัก
ผู้คนที่รู้จัก         เขาเมตตาเอ็นดู         พอมาบวชเป็นพระ
ท่านสละการนอน         ไม่มีความทุกข์ร้อน         ไม่ได้นอนก็ไม่คู้
ถือแต่นั่งเดินยืน         ทั้งกลางคืนกลางวัน      เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์
เขาชวนกันเชิดชู         หลวงปู่คุณย่า         ท่านเป็นคนชาวนา
อยากให้ลูกก้าวหน้า      หาวิชาความรู้         อาพันสุดท้อง
แกเป็นคนตาฟาง         เวรกรรมเคยสร้างไม่มีทางยกชู   หลวงปู่เป็นห่วงมาก
แกขอฝากคุณอา         จงชวนกันรักษา         ช่วยกันแลช่วยกันดู
คุณพ่อคุณอา         มีวิชาพอประมาณ         ล้มลุกคลุกคลาน

ขืนพอได้เป็นครู         เมื่อคุณย่าตายแล้ว         หลวงปู่บวชเป็นพระ
บ้านช่องมโหฬาร         ก็ไม่มีคนอยู่         หลวงปู่บวชเป็นพระ
ภาวนาบำเพ็ญ         ไม่มีใครรู้ใครเห็น         พอฉันเสร็จปิดประตู
ภาวนาอยู่ในกุฏิ         ชื่อไปดังในกรุง         สำนักวัดผดุง
จังหวัดพัทลุง         ก็ไม่มีใครรู้นามของอาจารย์เปลื้อง   ลือเลื่องหลายจังหวัด
เป็นพระปฏิบัติ         เคร่งครัดน่าดู         ปีห้าร้อยสิบเก้า
นิมนต์เข้าวัดบวร         เขาอยากเจอพระไม่นอน      ก็เป็นที่เชิดชู
วันที่หกกรกฎา         เขาโฆษณาประกาศ      พวกญาติโยมในตลาด
เขามากันพร้อมพรู         ทั้งทหารเรือทหารอากาศ      เขามาขอฟังโอวาท
ประกาศให้คนรู้         ในเมืองนครหลวง         มีแต่พระปริยัติ

ส่วนพระปฏิบัติไม่มีใครฟื้นฟู      รุ่นหนุ่มทรามคะนอง         บวชได้สองพรรษา
ไม่ได้ฝึกภาวนา         ก็เป็นพระที่ไม่รู้         บวชยามชราศรัทธาปฏิบัติ
เมื่อจิตรู้แจ้งชัด         เกิดเมตตาเอ็นดู         บวชเพียงครองผ้าเหลือง
ไม่รู้เรื่องภายในกาย      เมื่อจิตยังไม่คลาย         เพราะตาข่ายกั้นอยู่
ท่านผู้ใดลองดู         บวชเพ่งพินิจอยู่         ไม่ต้องรู้มากหลาย
ดิ่งจิตไว้ในกาย         ให้เหมือนสายธนู         ผู้ใดปฏิบัติธรรม
ธรรมรักษาผู้ปฏิบัติ         อันนี้เป็นคำตรัส         ของพระบรมครู
ธรรมเป็นเครื่องดับทุกข์      มีความสุขสำราญ         ทำให้จิตใจชื่นบาน

เหมือนทานอาหารกับปลาทู      โลกนี้มีความสุข         แสนสนุกเรื่องอารมณ์
เพราะความรักความชม      นอนปลักตมกันอยู่         โลกนี้เป็นอนิจจัง
แต่เรายังไม่รู้สึก         เมื่อไม่ได้ตรองไม่ได้ตรึก      ก็นึกน่าเห็นดู (น่าสงสาร)
สอนกันจนเบื่อ         ยังไม่เชื่อพุทธพจน์         น่าโศกเศร้าสลด
จิตยังคดยังคู้         สมัยใดมีคนจริง         เกิดมีขึ้นในโลก
เป็นผู้ประสบโชค         ชาวโลกก็ยกชู



ตอบปัญหาของอาจารย์ฟื้น  ดอกบัว
อาจารย์มหาวิทยาลัยศิลปากร
อะไรเป็นแก่นสารของชีวิต
ผู้ปฏิบัติธรรมกรรมฐาน  เป็นแก่นสาร  ของชีวิต      อบรมจิต  ให้ซื่อตรง  ดำรงศีล
ปลูกศรัทธา  เพียรภาวนา  เป็นอาจิณ         ขัดมลทิน  ความโง่เขลา  ให้เบาคลาย
ด้วยอำนาจ  ภาวนา  ศรัทธามาก         ตัดความอยาก  ให้สิ้นเชื้อ  เกิดเบื่อหน่าย
แก่นสาร  ของชีวิต  คือจิตคลาย         จิตสบาย  ท่านทุกคน  ควรสนใจ

คุณค่าของมนุษย์อยู่ที่ไหน
มนุษย์  รู้วิชา  มีค่ายิ่ง            รู้ของจริง  ก็ยิ่งเลิศ  ประเสริฐใหญ่
คุณค่าของมนุษย์  ศักดิ์สิทธิ์  ที่จิตใจ         รู้สิ่งใด  ยังไม่สู้  รู้รสธรรม
รสพระธรรม  ชนะรส  หมดทั้งโลก         ผู้มีโชค  ย่อมมีผู้  อุปถัมภ์
เป็นพระ  ปฏิคาหก  ที่ไม่ตกต่ำ         จิตเป็นธรรม  ท่านผู้รู้  เขาบูชา

เครื่องหมายของคนดีอยู่ที่ไหน(ความกตัญญูกตเวที)
เครื่องหมาย  ของคนดี  อยู่ที่มารยาท         เป็นนักปราชญ์  บัณฑิต  ฝึกนิสัย
นิสัยดี  ชอบทำดี  ไม่มีภัย            มีจิตใจ  กตัญญู  ผู้ทรงธรรม
กตเวที  ก็มีอยู่  ผู้ฉลาด            ไม่ประมาท  ชอบเลี้ยงดู  ผู้อุปถัมภ์
จิตใจสูง  เหมือนฝูงนก  ไม่ตกต่ำ         จิตเป็นธรรม  หาได้ยาก  ไม่มากเลย

คุณค่าของพระพุทธศาสนาที่มีต่อชาวโลก
พุทธศาสนามีค่ามาก            สุดแสนยาก  แต่ละผู้  จะรู้ถึง
อ่านปัญหา  ตันในอก  ตกตะลึง         นึกรำพึง  นั่งหลับตา  เวลานาน
คุณค่า  ผู้ปฏิบัติชอบ  ตอบไม่ได้         หมดเครื่องหมาย  มาปัก  เป็นหลักฐาน
การฝึกจิต  ฝึกตน  ผลของงาน         สุขสำราญ  ดับทุกข์โศก  มีโชคชัย
เพราะโลกนี้  มีธรรม  เครื่องค้ำจุน         แม้จะหมุน  ไปตามยาม  ตามสมัย
คุณค่า  เมตตาธรรม  ประจำใจ         ย่อมดับไฟ  ความโง่เขลา  ให้เบาคลาย
เมื่อไม่มี  ศาสนา  รักษาจิต            ขาดบัณฑิต  ต้องมืดมน  จนสลาย
ศาสนา  มีคุณค่า  อย่างมากมาย         ท่านทั้งหลาย  ควรนอบนบ  เคารพคุณ

พระธรรมมีความจำเป็นแก่เราอย่างไร
พระธรรม  ควรบำเพ็ญ  จำเป็นมาก         ดับความอยาก  ตัดความทุกข์  จิตสุกใส
ปฏิบัติธรรม  จิตเป็นธรรม  ชักนำใจ         ไม่มีภัย  จิตเป็นครู  อยู่สบาย
อยากรู้ธรรม  ควรน้อมนำ  มาฝึกตน         ฝึกอดทน  เป็นชาวพุทธ  ตามจุดหมาย
ธรรมศักดิ์สิทธิ์  ปรุงให้จิต  เกิดความคลาย      เมื่อรู้แล้ว  ควรทำ  จึงจำเป็น

อะไรคือ บุญ-บาป-ถูก-ผิด-ยุติธรรม-อยุติธรรม
ทำความดี  ย่อมได้ดี  มีความสุข         ปราศจากทุกข์  ไม่มีภัย  ใจผุดผ่อง
ทำแต่การ  สุจริต  จิตเป็นทอง         คนยกย่อง  นับถือ  ชื่อว่าบุญ
การทำ  ความชั่ว  ตัวเป็นทุกข์         เหมือนไม้ผุ  ติดไฟ  ใจหมองหม่น
ทำความชั่ว  มากมาย  ไว้เป็นทุน         ผิดกับบุญ  ชื่อว่าบาป  ทราบทั่วกัน
ยุติธรรม  เป็นของจริง  สิ่งที่แท้         ไม่เปลี่ยนแปร  รักษาไว้  เป็นของขวัญ
อยุติธรรม  ตรงกันข้าม  เช่นน้ำกับน้ำมัน      เหมือนนรก  กับสวรรค์  ผิดกันไกล

ชาตินี้-ชาติหน้า  นรกสวรรค์มีจริงหรือไม่
ชาตินี้ชาติหน้า  ต้องเชื่อ  พระตถาคต         ตามบทพุทธพจน์  ที่บัญญัติ  พระตรัสสอน
นรกสวรรค์  นั้นมีจริง  อย่างแน่นอน         ตามคำสอน  พระบรมครู  ผู้อาจารย์
ธรรมทั้งหลาย  ท่านตรัสไว้  ไม่โกหก         สวรรค์นรก  พระท่านชี้  มีหลักฐาน
ตรัสของจริง  ใครอยากเห็น  บำเพ็ญฌาน      เมื่อชำนาญ  รู้ได้ชัด  ปัจจัตตัง
สูงกับต่ำ  บุญกับกรรม  ธรรมกับโลก         แม้มีโชค  ไม่ทำดี  ไม่มีหวัง
พุทธโอวาท  ประกาศไว้  ไม่ปิดบัง         เพียงเนื้อกับหนัง  ไม่เพ่งดู  ไม่รู้เลย

ชีวิตที่ดีงาม  คือชีวิตอย่างไร
ชีวิต  ที่ดีงาม  ตามคำสอน            จงสังวรณ์  ระวังจิต  ไม่ผิดศีล
ถือขันติ  โสรัจจะ  เป็นอาจิณ            หมดราคิน  ความราคี  มีราคา
ตั้งสัจจะ  รักษา  ทวารสาม            ปฏิบัติตาม  โอวาท  พระศาสนา
เมื่อใครเห็น  ก็น่าดู  น่าบูชา            ตามวาจา  พระท่านตรัส  สวัสดี

เราจะช่วยกันรักษาพระพุทธศาสนาได้อย่างไร
ศาสนา  อยู่ได้ทน  เพราะผลทาน         ช่วยจัดการ  เอาใจใส่  ปัจจัยสี่
ศาสนา  อยู่ได้นาน  เพราะการให้พลี         ถ้าไม่มี  ขาดพืชพันธุ์  ต้องบรรลัย
ส่วนทางพระ  สมณะ  ปฏิบัติชอบ         ต้องนบนอบ  รักษาตน  คนเลื่อมใส
อย่าปล่อยจิต  ให้ตกต่ำ  จากธรรมวินัย      จะเป็นภัย  กับศาสนา  ไม่ถาวร
ผู้ทรงธรรม  เป็นผู้นำ  พุทธบริษัท         ต้องปฏิบัติ  ไปตามธรรม  คำสั่งสอน
ถ้าพระสงฆ์  ปฏิบัติตรง  อย่างแน่นอน         ความถาวร  ของศาสนา  ชั่วฟ้าดิน
ความละอาย  รักษาไว้  ซึ่งสมณะ         โอตตัปปะ  เป็นคู่สอง  คุ้มครองศีล
รักษากาย  วาจา  เป็นอาจิณ            ขัดมลทิน  ของนักพรต  หมั่นอดทน
โลกนี้ขาด  พุทธพจน์  หมดความสุข         ต้องเกิดทุกข์  ดังธรณี  ไม่มีฝน
ขาดธรรม  ปฏิบัติ  ฝึกหัดตน            ขาดมรรคผล  ขาดนิพพาน  แหละท่านเอย

อยากได้บุญ  ต้องบำเพ็ญความดี
   
อยากได้บุญ         แต่ไม่         บำเพ็ญความดี
อยากอ้วนพี            แต่ไม่         ทานอาหาร
อยากขึ้นสวรรค์            แต่ไม่         บริจาคทาน
อยากนิพพาน            แต่ไม่         บำเพ็ญภาวนา
ไม่อยาก               ได้บุญ         แต่บำเพ็ญความดี
ไม่อยาก               อ้วนพี         แต่ทานอาหาร
ไม่อยาก               ขึ้นสวรรค์      แต่บริจาคทาน
ไม่อยาก               นิพพาน         แต่บำเพ็ญภาวนา

      
ทรัพย์สินเงินทอง            เป็นของชาวโลก
   
ทั้งรักทั้งโศก               เป็นของคู่กัน
   
บวชเป็นชาวธรรม               ยังลูบคลำเงินทอง
   
จิตใจเศร้าหมอง               ต้องเป็นหมัน
   
ผู้ที่ฝึกจิต                  ไม่ติดรสหวานมัน
   
ไม่ติดพันลาภยศ               หมดราคิน
  
   
ชาวโลกมีกรรม         ชาวธรรมมีบุญ
ทำง่ายได้บุญมาก            ทำยากได้บุญน้อย(พระเลี้ยงง่ายกับพระเลี้ยงยาก)
พระเลี้ยงง่ายคนศรัทธามาก         พระเลี้ยงยากคนศรัทธาน้อย
คนแก่หาได้ยาก            คนอายุมากหาได้ง่าย
อริยทรัพย์ภายในกาย         มีอยู่มากหลายแต่ไม่มีใครต้องการ

ผู้ฝึกตนแล้ว  เป็นผู้ประเสริฐสุด
ในหมู่มนุษย์  ผู้ฝึกตนแล้ว  เป็นผู้ประเสริฐสุด
      
ผู้ศรัทธา         ได้เจอะพระ      ที่หายาก
   
เป็นบุญมาก         พระตรัสไว้      ไม่ต้องถาม
   
เมื่อตรวจดู         รู้ด้วยจิต         ควรติดตาม
   
เพียรพยายาม         เพียงกราบไหว้      ยังได้บุญ

เกิดเป็นมนุษย์  อย่าประมาท
   
พุทธพจน์  ยังปรากฏ  อยู่ในโลก         ผู้มีโชค  จะได้เจอะ  พระศาสนา
สมัยใด  เกิดบัณฑิต  จิตศรัทธา            ผู้ปรารถนา  จะปฏิบัติ  ฝึกหัดตน
เราชาวพุทธ  เกิดเป็นมนุษย์  อย่าประมาท         ประคองบาตร  เอาไว้  ไม่ไร้ผล
ขาดหม้อทิพย์  ขาดผู้ปฏิบัติ  ฝึกหัดตน            ขาดมรรคผล  ขาดนิพพาน  แหละท่านเอย

นาบุญ
   
ผู้มีบุญ  ต้องประสบ  พบกับบุญ         เพราะมีทุน  มีวาสนา  ตามองเห็น
ไม่มีบุญ  ไม่มีทุน  ไม่บำเพ็ญ               จึงไม่เห็น  คุณค่า  ของนาบุญ
นาเป็นบุญ  มีแต่คุณ  ไม่มีโทษ            จิตปราโมทย์  จิตอบรม  สมความหมาย
จิตฝึกจิต  เพ่งพินิจ  ภายในกาย            เมื่อจิตคลาย  เขาบูชา  เป็นนาบุญ


ต้องเชื่อพระ
      
ภายในร่างของตน      ทุกทุกคน         ใครก็รู้
   
เพราะประมาท         ไม่เพ่งดู         จึงไม่เห็น
   
พระศาสดา         ตรัสไว้         ให้บำเพ็ญ
   
ผู้ที่เห็น            ย่อมประเสริฐ      เกิดปัญญา
   
ผู้มองตน            ไม่เห็นในตน      ไม่พ้นทุกข์
   
ประสบสุข         ตามพุทธพจน์      หมดปัญหา
   
ที่ไม่เพ่งพินิจ         ไม่เชื่อจิต         ยังเชื่อตา
   
ไม่เชื่อพระ         จำต้องจน      ทุกคนเอย
      
เพ่งอสุภซาก      เพ่งให้มาก      ความอยากดับ
   
เหมือนพบทรัพย์         จิตชื่นชม         สมความหมาย
   
ดับความอยาก         ปราศจากทุกข์      สุขสบาย
   
เมื่อจิตคลาย         ความกำหนัด      ตัดนิวรณ์
   
ภายในร่าง         ของตน         ทุกคนรู้
   
เพราะประมาท         ไม่เพ่งดู         จึงไม่เห็น
   
พระศาสดา         ตรัสไว้         ให้บำเพ็ญ
   
ผู้ที่เห็น            ย่อมประเสริฐ      เกิดปัญญา
   
ผู้มองตน            ไม่ติดตน         จึงพ้นทุกข์
   
ประสบสุข         ตามพุทธพจน์      หมดปัญหา
   
ไม่เพ่งพินิจ         ไม่เชื่อจิต         ยังเชื่อตา
   
ไม่เชื่อพระ         จำต้องจน      ทุกคนเอย(จนปัญญาไม่เห็นธรรม)

      
ผู้รู้จริง         เห็นจริง         เพราะทำจริง
   
ดวงจิตดิ่ง         อยู่ในธรรม      คำสั่งสอน
   
เมื่อรู้ชัด            เห็นชัด         ตัดนิวรณ์
   
เห็นเมืองนคร         ภายในกาย      สบายใจ
  
      
พรหมจรรย์      เอาพระขันธ์(ขันติ)      เป็นอาวุธ
   
ชนชาวพุทธ         เขาบูชา         ทั้งหน้าหลัง
   
ข่าวชาวเมือง         เขาเลื่องลือ      มีชื่อดัง
   
เหมือนฆ้องระฆัง         ประกาศโชว์      โฆษณา
   
ผู้ฝึกตน            อดทนมาก      ความอยากดับ
   
เกิดอริยทรัพย์         ตามพุทธพจน์      หมดปัญหา
   
จิตคงที่            หมดราคี         มีราคา
   
ทั้งมนุษย์            เทวดา         บูชากัน
ผู้มีบุญ            มีแต่คุณ         ไม่มีโทษ
จิตปราโมทย์         เที่ยงแท้         ไม่แปรผัน
ศีลอุปถัมภ์         ธรรมคุ้มครอง      ของสำคัญ
รสหวานมัน         รู้ด้วยใจ         ภายในตน

รู้เองเห็นเอง
   
สันทิฏฐิโก      ผู้รู้         พูดไม่ได้
จิตเป็นใบ้         เมื่อพูดไป      ใครไม่เห็น
ผู้ที่รู้            เฉพาะผู้         เพียรบำเพ็ญ
ทั้งหอมทั้งเหม็น         รู้ได้ชัด         ปัจจัตตัง

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น

โปรดแสดงความคิดเห็นด้วยเมตตาธรรม

บทความที่ได้รับความนิยม