วันพุธที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

รวมคำกลอนหลวงปู่เปลื้อง ปัญญวันโต (ฉบับสมบูรณ์) ๘

ธุดงค์ ข้อสิบสาม 
ถือธุดงค์  ข้อสิบสาม  ตามพุทธพจน์      ย่อมรู้รส  ของพระธรรม  คำสั่งสอน
จิตเป็นสุข  ไม่ต้องทุกข์  เรื่องการนอน         ผลสะท้อน  ปราศจากทุกข์  สุขสบาย
พุทธโอวาท  ท่านประกาศ  ไว้ในโลก         ใครมีโชค  เพียรภาวนา  เป็นยาถ่าย
เพ่งให้ทะลุ  เห็นวัตถุ  ภายในกาย         ท่านหญิงท่านชาย  ทุกทุกคน  ควรสนใจ
วาจาสัจ  พระพุทธองค์  ตรัสคงที่         ผลความดี  อำนวยสุข  ทุกสมัย
บังคับจิต  ให้ภาวนา  เวลาใด         ความผ่องใส  ของจิต  คอยติดตาม
ผู้ฝึกตน  ได้รับผล  ทุกขณะ            จิตเป็นพระ  หรือเป็นทอง  ไม่ต้องถาม
ชนะตน  ผลอำนวย  ทั้งสวยทั้งงาม         ชนะกาม  หมดความโศก  โลกโลกีย์
ผู้ฝึกจิต  เพ่งพินิจ  ไม่ตกต่ำ            เอาพระธรรม  พุทธวาจา  เป็นสารถี
จิตไม่ตกต่ำ  บรรลุธรรม  เพียงเจ็ดปี         สติปัฏฐานสี่  พระพุทธองค์  ทรงรับรอง
พุทธวาจา  มีคุณค่า  ทุกสมัย            ตรัสคำใด  คงที่  ไม่มีสอง
ประกาศธรรม  เลือกถ้อยคำ  ที่เป็นทอง      ชนยกย่อง  เชิดชู  เขาบูชา
จะดีจะชั่ว  ควบคู่  อยู่ที่จิต            เหตุที่ผิด  เพราะไม่เชื่อ  พระศาสนา
พระพุทธองค์  เป็นบัณฑิต  จิตเมตตา         เฉพาะผู้มี  ศรัทธา  ค้นหาทาง
ทางมรรคผล  อยู่ที่ใจ  ใครไม่รู้         มีแต่  พระบรมครู  ผู้สว่าง
ท่านผู้แจ้ง  แสดงธรรม  ไม่อำพราง         ชี้หนทาง  ปฏิบัติ  ไว้ชัดเจน
พระธรรม  ผู้ชักนำ  เป็นสารถี         ทั้งคนจน  คนมี  ทั้งชีเถร
ผู้ครองผ้า  กาสายะ  ทั้งพระเณร         ไม่เอียงเอน  เที่ยงตรง  เหมือนธงชัย
ธรรมทั้งหลาย  ท่านบรรยาย  ไว้ในร่าง         ผู้สะสาง  อยู่เป็นนิจ  จิตผ่องใส
หลักความจริง  เมื่อเพ่งดู   รู้ด้วยใจ         หลงก่อไฟ  เผาตน  จนปัญญา
ไฟกิเลส  อยู่ภายใน  ใจจึงมืด         หลงสืบพืช  ภพชาติ  ตามปรารถนา
เชื้อของไฟ  อยู่ที่ใจ  ไม่ไกลตา         เมื่อปรารถนา  สิ่งใด  จิตใจพอง
ผู้เรียนธรรม  จำได้ง่าย  เห็นได้ยาก         เพราะความอยาก  อยู่ภายใน  ใจเศร้าหมอง
จิตหลงใหล  ด้วยไฟ  เพียงสามกอง         ประคับประคอง  เรื่องสนุก  สุขโลกีย์
พระบรมครู  ตรัสรู้  โลกโลกุตร         จิตวิมุต  ประสบสุข  ทุกวิถี
โลกโลกุตร  เรื่องสมมุติ  นั้นไม่มี         จิตคงที่  คลายกำหนัด  ตัดนิวรณ์
ผู้เบื่อโลก  หวังวิโมกข์  จะพ้นทุกข์         ปรารถนาสุข  ตามพระธรรม  คำสั่งสอน
บังคับจิต  เพ่งพินิจ  ไม่ขาดตอน         กิเลสถอน  ออกจากจิต  ฤทธิ์ความเพียร
ไม่บังคับ  จิตไม่ดับ  ซึ่งความอยาก         กิเลสมันลาก  ทั้งผู้ดู  และผู้เขียน
ประสบสุข  ปราศจากทุกข์  เพราะความเพียร      ทั้งผู้เรียน  ผู้บำเพ็ญ  เป็นอันเดียว
ผมเขียนธรรม  คำบรรยาย  ไม่ประมาท      เป็นโอวาท  ที่มีแสง  ไม่แห้งเหี่ยว
ครั้งสุดท้าย  ท่านตรัสธรรม  ไว้เพียงบาทเดียว      ทั้งเผ็ดทั้งเปรี้ยว  ชั่วดี  มีทุกรส
ยาระบาย  เป็นยาถ่าย  โรคกิเลส         ยามหาวิเศษ  เป็นธรรมโอสถ
ผู้รับประทานยา  ต้องเชื่อ  พระตถาคต         ธรรมปรากฏ  โรคหาย  สบายเอย


ศีลสิบ 
สมณะครองหม้อทิพย์      ต้องมี      ศีลสิบมั่นคง
แม้จะเป็นสมมุติสงฆ์         ดำรง      พระพุทธศาสนา
บวชครองหม้อทิพย์         เมื่อศีลสิบ   วิบัติ
แม้จะเป็นพระอยู่ในวัด         คนก็ไม่      ศรัทธา

   
ผู้ครองบาตรต้องมีศีลสิบ         เพราะหม้อทิพย์คู่ผ้าธง
มรดกพระพุทธองค์               เครื่องดำรงพระพุทธศาสนา
ผ้าธงคู่บาตร               ผู้ไม่ประมาทคุ้มครอง
ทำให้จิตผุดผ่อง               มองเห็นร่างกายา
ตาเห็นรูปจิตเห็นร่าง            เมื่อจิตสว่างเกิดทางมรรคา
รูปที่รักเห็นด้วยตาเนื้อ            รูปที่น่าเบื่อเห็นด้วยตาใน
ตานอกมองไกล               ตาในมองใกล้
ไม่มีเหตุไม่มีผล               ไม่ต้นไม่มีปลาย
ไม่มีการเกิด               ไม่มีการตาย
ไม่มีการถ่าย               ไม่มีการกิน

   
ผู้ที่ครองหม้อทิพย์            เมื่อศีลสิบวิบัติ
ครองผ้ากาสาวพัตร์            ไม่พบทางมรรคา
ผู้ไม่รู้จักศีลสิบ               ก็ไม่รู้จักพระ
ไม่รู้จักสมณะ               ก็ไม่รู้จักศีลธรรม
ไม่มีศีลสิบ               ครองหม้อทิพย์ไม่ได้ผล
ไม่หลุดพ้นจากความจน            ไม่อดทนไม่เห็นธรรม

      
ไม่มีศีลสิบ      ครองหม้อทิพย์      ต้องยากจน
ปฏิบัติธรรม            ไม่เกิดผล         กลายเป็นคนชรา


สมณะต้องไม่ประมาท 
ผู้ทรงศีล  มีกลิ่นหอม  ทั้งผอมทั้งพี      จิตคงที่  ไม่ประมาท  พระศาสนา
เคารพพุทธ  เป็นมนุษย์  เทวดา         เป็นที่ปรารถนา  ของบัณฑิต  จิตเป็นธรรม
คนทำชั่ว  มาให้พระ  ประน้ำมนต์         ต้องการผล  แต่ดวงจิต  เป็นมิจฉา
ความศักดิ์สิทธิ์  ผู้ที่จิต  มีเมตตา         มนต์คาถา  ไม่ให้ผล  กับคนพาล

   
ผู้ครองผ้าธง  ครองบาตร         เมื่อยังประมาท  ต้องขาดทุน
มีแต่บาป  ไม่มีบุญ  ค้าไม่มีกำไร
   
ผู้ครองผ้าธง  ครองบาตร         เมื่อไม่ประมาท  มีกำไร
สุขกาย  สุขใจ  ไม่มีภัยอันตราย

   
รักษาศีลให้เกิดปัญญา         ต้องภาวนาให้ติดต่อ
บวชเป็นสมณะต้องเชื่อพ่อ            เรียนเป็นหมอต้องเชื่อยา
เกิดเป็นลูกผู้ชาย               ต้องบำเพ็ญความดี
เกิดเป็นสตรี               ต้องรักษามารยาท
บวชเป็นสมณะ               ไม่มีความประมาท
ผู้ที่เกิดเป็นรัชทายาท            ต้องเป็นพระราชา

วงศ์ธรรมยุต

   
วงศ์สกุลกษัตริย์         สร้างพระทอง      ครองหม้อทิพย์
สุดสูงลิบ               ได้เป็น         พระอรหันต์
สงฆ์สมมติ            วงศ์ธรรมยุต      ในปัจจุบัน
อาจารย์มั่น            ปรากฏผล      คนบูชา
สงฆ์สมมุติ            วงศ์ธรรมยุต      กษัตริย์สร้าง
ตามแบบอย่าง            พระวินัย         ไตรสิกขา
ธรรมยอดยิ่ง            ผู้ปฏิบัติจริง      เห็นทันตา
พุทธวาจา            พระพุทธองค์      เป็นธงชัย
กระดูกมนุษย์            ผู้จิตบริสุทธิ์      กลายเป็นธาตุ
ตามพุทธโอวาท            เราหมดสิ้น      ความสงสัย
ธรรมยอดยิ่ง            ประเสริฐจริง      รู้ด้วยใจ
หมดเชื้อไฟ            รู้ด้วยตน         ทุกคนเอย
(
หมดเชื้อไฟ คือ ไฟราคะ)

   
พระไม่จริง         เลวทราม         ไม่มีความอดทน
ต้องขัด               ต้องสน         ต้องยากจนทุกประการ
พระจริง               ไม่จน         มีคนศรัทธา
ญาติโยม               ปวารณา         ตามความปรารถนาทุกประการ

   
พระหัวล้าน         ชาวบ้านหัวรก
หน้าตาสกปรก            ไม่มองกระจก      ก็ไม่เห็น
กิเลสอยู่ในร่างกาย            พระท่านให้      บำเพ็ญ
เมื่อชีวิตเรายังเป็น            จะเห็น         ด้วยปัญญา


มีขม  ก็มีเผ็ด  มีเพชร  ก็มีหิน  มีศีล  ก็มีสัจจะ 
เรื่อง  เกลือเค็ม  พริกเผ็ด  บรเพ็ดขม      ชวนเชิญชมชิมดูรสความสดใส
ธรรมยอดยิ่งของจริงอยู่ที่จิตใจ         ทุกสมัยหมุนเวียนรสไม่เปลี่ยนแปลง
หลักความจริงทุกๆ สิ่งมีในโลก         ผู้มีโชคเมื่อเชื่อพระตามีแสง
รสพระธรรมของล้ำค่าราคาแพง         เมื่อเห็นแจ้งรู้ได้ชัดปัจจัตตัง (รู้ได้เฉพาะตน)
พยายามต้องทำตามพุทธภาษิต         ฝึกหัดจิตให้คงที่จึงมีหวัง
ธรรมทั้งหลายพระตรัสไว้ไม่ปิดบัง         เพียงแต่ฟังเมื่อไม่ทำจำต้องจน
ฟังแต่หูจิตไม่รู้รสความเค็ม            ด้ายตามเข็มต้องร้อยท้ายจึงได้ผล
ปฏิบัติธรรมพระธรรมชักนำตน         ฝึกอดทนเป็นนักรบพบหนทาง
พริกรสเผ็ดเมื่อใจเด็ดจึงชนะ            บวชเป็นพระปฏิบัติได้ไม่ขัดขวาง
บรเพ็ดขมผสมยาแก้ตาฟาง            เมื่อเห็นทางมองเห็นทิศจิตสบาย

คนตาดีมองเห็นสีทุกชนิด            ของวิจิตรอันยอดยิ่งสิ่งทั้งหลาย
มองทะลุเห็นวัตถุภายในกาย            เจอะร่างร้ายภายในตนของคนเป็น
หลงอารมณ์ชมรูปนามเมื่อยามเมา         เพราะเส้นผมบังภูเขาเราไม่เห็น
นึกละอายร่างในตนของคนเป็น         ทั้งหอมทั้งเหม็นควบคู่อยู่ด้วยกัน
ธรรมทั้งหลายเรียนไว้ไม่ปฏิบัติ         ถ้าชาววัดจิตเศร้าหมองต้องเป็นหมัน
บรรพชิตเมื่อยังติดรสหวานมัน         เป็นสวรรค์ของตัณหาน่าละอาย
สร้างนาบุญเมื่อขาดทุนเป็นนาบาป         ยังติดลาภติดยศหมดความหมาย
ไม่ทนอดไม่รู้รสของความคลาย         ไม่หลุดพ้นจากตาข่ายของนายพราน
ครองผ้าธงจิตยังหลงด้วยลาภยศ         เรียนพุทธพจน์แล้วไม่ทำพระกรรมฐาน
บาปกับบุญไม่เห็นตัวไม่กลัวทาน         พิษอาหารเผาดวงจิตไม่คิดกลัว

คำอธิษฐานผู้ให้ทานกลายเป็นพิษ         เผาดวงจิตลุกล้นขึ้นพ้นหัว
บวชหวังลาภสะสมบาปไว้ในตัว         ที่ไม่กลัวเพราะผลกรรมชักนำใจ
ผมนึกกลัวเคยบวชตัวมาสองครั้ง         บวชคราวหลังจิตหมดสิ้นความสงสัย
เรื่องนาบุญหรือนาบาปทราบด้วยใจ         มองเห็นไฟภายในกายไม่มีควัน
อัคคีไม่มีแสงนั้นแรงมาก            พิษความอยากเกิดความร้อนนอนเป็นฝัน
อยากไม่เบื่อต้องการเชื้อทุกคืนวัน         เผาร่างขันธ์ยังสืบพืชไปยืดยาว
บุญคู่กรรมโลกคู่ธรรมยังมีอยู่            ไม่บำเพ็ญก็ไม่รู้ว่าดำขาว
ผลความชั่วผู้ที่กลัวไม่อยากกล่าว         ร้อนกับหนาวปรากฏผลด้วยตนเอง
ผู้มีบุญมีแต่คุณไม่มีโทษ            จิตปราโมทย์เสียงไพเราะดังเหมาะเหม็ง
มีชื่อเสียงดังไปทั่วคนกลัวเกรง         เรื่องบทเพลงไม่มีมากแต่เขาอยากชม

ผมเขียนธรรมคำบรรยายไม่ประมาท         ขอประกาศสามรายการทั้งหวานทั้งขม
ถ้าไม่เชื่อคำพยานเชิญท่านอม         เค็มเผ็ดขมรู้ด้วยตนจนปรีดิ์เปรม
ผู้ข่มจิตเพ่งพินิจเช่นบรเพ็ด            พริกรสเผ็ดเมื่อใจเด็ดเดินตามเข็ม
พุทธพจน์เปรียบเหมือนรสของความเค็ม      ตุ่มน้ำเต็มไม่ต้องปิดจิตสบาย


ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น

โปรดแสดงความคิดเห็นด้วยเมตตาธรรม

บทความที่ได้รับความนิยม