วันพุธที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

รวมคำกลอนหลวงปู่เปลื้อง ปัญญวันโต (ฉบับสมบูรณ์) ๑๐


ผู้ใดเห็นธรรม  ผู้นั้นเห็นตถาคต
   
ผู้ใดเห็นธรรม         ผู้นั้น         เห็นพระตถาคต
เห็นตามพุทธพจน์            ทางพระพุทธ      ศาสนา
เมื่อเพียรเพ่ง            ปฏิบัติ         ไม่จำกัดเวลา
นั่งสมาธิหลับตา            พิจารณา         อยู่ด้วยใจ
พิจารณาอยู่ประจำ            ย่อมเห็น         ธรรมแจ้งชัด
ตรงตามคำ             ที่ท่านตรัส      หมดสงสัย
เมื่อรู้ตาม               เห็นตาม         เกิดความปลื้มใจ
เมื่อหมดความ            สงสัย         จิตใจก็สบาย

   
วัตถุ         ภายในกาย      ท่านบรรยาย      ไว้เป็นธรรม
เมื่อปฏิบัติ         อยู่ประจำ      พระธรรม         ย่อมปลุกใจ
พระธรรม            พระบรมครู      มีอยู่         ภายในภาย
เมื่อเพ่ง            พิจารณา         แยบคาย         หมดความสงสัย
ดับเหตุ            ที่เกิดทุกข์      ที่เกิด         ขึ้นเป็นไฟ
หมดความ         สงสัย         จิตใจ         สบาย
      
ศาสนา         ของศักดิ์สิทธิ์         เป็นสันทิฏฐิโก
ผู้ที่เรียน               เอาไว้โชว์            ก็ไม่รู้ของจริง
รู้แล้วไม่เชื่อ            เหมือนสร้างเรือ         ไว้ไม่ใช้
มีทั้งแจว               มีทั้งพาย            เก็บไว้บนตลิ่ง
สร้างเรือ               ไว้บนบก            สร้างครกไว้บนเขา
เมื่อพบทรัพย์            แล้วไม่เอา         น่าสงสารจริงๆ

      
ท่านบัณฑิต      จิตศรัทธา         พิจารณาเหตุผล
เดินตามรอย            พระทศพล         เพราะตนเคยบำเพ็ญ
คนพาล               ไม่ศรัทธา            เพราะเกิดมามีกรรม
แม้ว่าท่านผู้ใด            ชักนำ            ก็มองธรรมไม่เห็น
คนตาบอด            กับคนตาดี         คนมีคนจน
แม้เกิดมา            เป็นคน            แต่เหตุผลต่างกัน


เห็นตัว
   
กิเลสเอง  พระท่านบอก  เอาออกเอง         ไม่ต้องเกรง  ไม่ต้องกลัว  ตัวตัณหา
เพ่งติดต่อ  เห็นตัว ”  เกิดปัญญา            เจอะตัณหา  ความเห็นผิด  ที่จิตใจ
ผู้ไม่มีบุญ  ไม่ประสบ  พบกับบุญ            ไม่มีทุน  จะค้าขาย  ได้ที่ไหน
บุญคู่บุญ  บาปคู่บาป  ทราบด้วยใจ            น้ำกับไฟ  อยู่ในตน  ไม่ปนกัน
การเลือกพระ  เป็นปัญหา  ที่สูงลิบ            ผู้ครองหม้อทิพย์  ของพระ  อรหันต์
ต้องฝึกจิต  ไม่ให้ติด  รสหวานมัน            ไม่ติดพัน  ซึ่งลาภยศ  หมดราคิน
รักษาตัว  เหมือนใบบัว  ไม่ติดน้ำ            ย่อมสวยงาม  อันวิจิตร  ไม่ผิดศีล
บำเพ็ญเพียร  ภาวนา  เป็นอาจิณ            ขัดมลทิน  ของนักพรต  หมดความเมา
หนึ่งเมานอน  สองเมากาม  สามเมาทรัพย์         ถูกบังคับ  ต้องทำตาม  เพราะความเขลา
บวชเป็นพระ  ต้องสละ  ซึ่งความเมา            ไฟไม่เผา  ไม่ต้องทุกข์  สุขสบาย
เป็นนาบุญ  บวชค้ำจุน  ผู้ศรัทธา            ผู้ปรารถนา  จะออก  นอกตาข่าย
ผลข้าวดี  เพราะดินดี  ไม่มีทราย            พระตรัสไว้  หาได้ยาก  ไม่มากเลย
ผู้มีทุน  มีบุญ  มีวาสนา               ได้เจอะพระ  ที่สวยงาม  ตามเฉลย
ไม่มีบุญ  ไม่ประสบ  พบกันเลย            แม้คนเคย  อยู่ด้วยกัน  ทุกวันคืน
ผู้ไม่รู้  อยู่ใกล้ชิด  ไม่ติดพัน               น้ำกับน้ำมัน  อยู่ด้วยกัน  ไม่ขัดขืน
เรียนรู้ธรรม  ไว้ให้พร  สอนคนอื่น            จิตไม่ตื่น  ตกเป็นกรรม  จำต้องจน
เมื่อพบเพชร  แต่กลัวเผ็ด  ไม่กล้าทาน            เป็นทหาร  แต่กลัวตาย  ไร้เหตุผล
เรียนรู้ธรรม  ไม่น้อมนำ  มาฝึกตน            รู้แต่ผล  ไม่รู้รส  หมดราคา
รสความอิ่ม  เมื่อไม่ชิม  ก็ไม่รู้            ยังมีอยู่  ทางพระ  พุทธศาสนา
คนส่วนมาก  รสความอยาก  นั้นลากพา         เพราะตัณหา  ให้ความสุข  ทุกวันคืน
ตัวตัณหา  ไม่เชื่อพระ  ไม่เห็นทุกข์            เรื่องสนุก  เขามองเห็น  เป็นสวรรค์
สุขกับทุกข์  นั้นควบคู่  อยู่ด้วยกัน            ต้องเกี่ยวพัน  เรื่องสืบพืช  ไปยืดยาว
โลกโลกีย์  มีคู่ครอง  ต้องสนุก            ถึงคราวยุค  ร่วมชุมนุม  ทั้งหนุ่มสาว
ผู้ชายแม้  คู้คดยัง  ไม่หมดคาว            ถือไม้เท้า  แมลงวันตอม  ไม่ยอมแก่
โลกโลกุตร  เป็นมนุษย์  ไม่ประมาท            เชื่อโอวาท  ต้องเดินสวน  ทวนกระแส
ตัดความใคร่  ไม่สนุก  สุขที่แท้            ไม่เปลี่ยนแปร  จิตเที่ยงตรง  เหมือนธงชัย
รู้แจ้งชัด  ตามคำตรัส  พุทธพจน์            จิตรู้รส  จิตหมดสิ้น  ความสงสัย
ธรรมยอดยิ่ง  นั้นมีจริง  อยู่ที่ใจ            คำว่าไกล  แสนไกล  อยู่ในกาย
สติปัฏฐาน  พระวิจารณ์  ไว้แจ้งชัด            ผู้ที่ปฏิบัติ  เมื่อจิตคด  หมดความหมาย
เชื่อแต่ปาก  กิเลสลาก  จนวันตาย            น่าละอาย  ไม่ฝึกตน  จนปัญญา
เป็นมนุษย์  ไม่เชื่อพุทธ  ต้องเศร้าโศก            อยู่ในโลก  ไม่หลุดพ้น  จากตัณหา
เพราะมีความ  เห็นผิด  จิตเชื่อตา            ไม่เชื่อพระ  จำต้องจน  ทุกคนเอย

         
ไม่รู้จักบาป      ก็ไม่รู้จักบุญ
         
ไม่รู้จักบุญคุณ      ก็ไม่รู้จักศีลธรรม
         
ชาวโลกมีกรรม      ชาวธรรมมีบุญ
พระธรรมฝึกศิษย์ผู้มีจิตศรัทธา
   
พระธรรมเป็นสารถีต่อผู้ปฏิบัติ         ยอมฝึกหัดให้ได้ตามประสงค์
ผู้ไม่ประมาทปฏิบัติตัดทางตรง            ครองผ้าธงถือสัจจะทมะธรรม
ผู้ประมาทน่าเอ็นดูความรู้มาก            กิเลสลากทั้งผ้าเหลืองเป็นเรื่องขำ
แม้ผ้าเหลืองเครื่องคุ้มครองเป็นทองคำ            จิตตกต่ำไม่ศรัทธาน่าเสียดาย
รสพระธรรมชนะรสหมดทั้งโลก            ตัดความโศกให้สิ้นเชื้อเกิดเบื่อหน่าย
ยังหลงเพศกิเลสชั่วกลัวความคลาย            หลงรักใคร่ร่างของขันธ์แมลงวันตอม
ร่างของตนทุกๆ คนก็ย่อมรู้               หนังหุ้มอยู่ไม่ยอมบอกภายนอกหอม
น่าละอายหลงร่างขันธ์แมลงวันตอม            ทั้งร่างผอมร่างพีไม่มีชัง
ผมผู้เขียนบอกตรงๆ  หลงมาแล้ว            จิตผ่องแผ้วเกิดความเชื่อเมื่อภายหลัง

บวชรุ่นหนุ่มความเห็นผิดยังปิดบัง            บวชคราวหลังยามชราศรัทธาแรง
บวชภาวนาเป็นอาจิณศีลรักษา            ด้วยอำนาจศรัทธาใจกล้าแข็ง
เห็นพระธรรมอันล้ำค่าราคาแพง            ความเคลือบแคลงสิ้นสงสัยภายในกาย
ตัวกามฉันท์เครื่องกั้นกางหนทางมรรค            เอาความรักครอบหน้าเป็นตาข่าย
รัก รัก รักเผาจิตใจภายในกาย            ยังไม่ตายอยู่เป็นคนไม่พ้นรัก
เพราะความรักเหมือนโมกขศักดิ์ปักทรวงอก         น้ำตาตกจนตัวตายไม่ยอมผลัก
นิวรณ์ห้าเครื่องกั้นจิตมีฤทธิ์นัก            เพราะความรักความหวงเป็นบ่วงมาร
พระบรมครูให้เพ่งดูภายในกาย            เพื่อทำลายรังความรักเป็นหลักฐาน
เผาปราสาทราชวังรังของมาร               หมดรากฐานหมดบ้านพักหมดรักชัง
หมดรักหมดชังจะนอนนั่งก็เป็นสุข            ไม่มีทุกข์เขาบูชาทั้งหน้าหลัง

ธรรมทั้งหลายพระตรัสไว้ไม่ปิดบัง            ผู้ที่ฟังแล้วไม่ทำจำต้องจน
ความไม่ประมาทพุทธโอวาทครั้งสุดท้าย         เรียนก็จำทำก็ได้แต่ไม่สน
เรียนรู้มากสุดแสนยากที่จะฝึกตน            ไม่อดทนแม้เรียนจบก็ไม่พบธรรม
ความอดทนปราบศัตรูคู่สัจจะ            มีตบะนักต่อสู้ดูหึมหัม
กิเลสในตัวกลัวสัจจะทมะธรรม            เมื่อเรียนจำแล้วปฏิบัติสวัสดี
ผมผู้เขียนเรียนก็จำทำก็ได้               น้อมรับใช้ผู้หวังสุขทุกวิถี
ผู้ไม่ประมาทให้โอกาสทุกวินาที            เพราะยินดีจะประสบพบคนจริง
ผู้ศรัทธาขอเชิญมาไม่ต้องกลัว            เมตตาทั่วท่านทั้งหลายทั้งชายหญิง
ผมหลวงตาหลวงพ่อเปลื้องสอนเรื่องจริง         ทุกๆ สิ่งแนะนำเคยทำมา

สิ่งทั้งหลายเมื่อทำไม่ได้แล้วไม่สอน            เมื่อแน่นอนไม่ต้องกลัวตัวมุสา
อยากสอนศิษย์ผู้มีจิตใจศรัทธา            จิตเมตตาผู้ต้องการทานทุกคน
ศิษย์ใจจริงจิตยอดยิ่งหาได้ยาก            จริงแต่ปากมีมากหลายไร้เหตุผล  
จริงภายในใจเป็นธรรมชักนำตน            จริงอดทนจิตเป็นพระชนะมาร
พระกับมารควบคู่อยู่ที่จิต               ความเห็นผิดคือความอยากเป็นรากฐาน
เพราะความอยากต้องยากจนเป็นคนพาล         เป็นเครื่องประหารทำลายตนทุกคนเอย


นิพพานคนเมา
   
มีภาษิต  เป็นคำเตือน  เพื่อนร่วมชาติ         ผู้ประมาท  ยังตกลึก  นึกสงสาร
สมัยนี้  มีเครื่องไฟ   ใหญ่ทุกงาน            เฉพาะการ  ที่จะเป็น  บำเพ็ญบุญ
ควรสนใจ  คำว่าไฟ  เป็นของร้อน            ใช่จะถอน  ใช่จะปลุก  มีทุกข์หมุน
มีกำไร  ยังดีกว่า  ค้าขาดทุน               บาปกับบุญ  เรื่องของจิต  คิดให้ดี
การอุทิศ  ควรสงบจิต  สงบกาย            งานคนตาย  อย่าให้กลาย  เป็นงานผี
หากตัวจน  อย่าอวดตน  ว่ามั่งมี            เสร็จพิธี  ไม่ต้องทุกข์  สุขใจกาย
การทำบุญ  ลงทุนค้า  หากำไร            ทำสิ่งใด  เมื่อไม่ผิด  สมจิตหมาย
ข้าวหนึ่งต้น  ย่อมได้ผล  อย่างมากมาย         สุขสบาย  ยามเกิดทรัพย์  นับอนันต์

แต่บางงาน  เขาต้องการ  ความสนุก            ชอบดับทุกข์  ด้วยสุรา  ดูน่าขัน
คนบางคน  เมาสุรา  ชอบฆ่าฟัน            เป็นสวรรค์  ของคนเมา  เขาไม่กลัว
น่าเอ็นดู  เมื่อยามอยู่  โรงพยาบาลรัฐ            เสพสมบัติ  วิมานฟ้า  ผ้าปิดหัว
ล้วนแต่ทิพย์  ที่บรรทม  ก็จมตัว            นึกน่ากลัว  สุขสำราญ  วิมานเมา
ยามไม่เมา  บ้างเป็นครู  อยู่เหมือนพระ         รู้ธรรมะ  อยู่มากหลาย  ไม่ใช่เขลา
เป็นนักปราชญ์  แท้แท้  ไม่แลเงา            เวลาเมา  ยักโครง  เดินโทงเทง
ดื่มสุรา  พอตาลาย  คลายความทุกข์            แสนสนุก  เสียงไพเราะ  ช่างเหมาะเหม็ง
ใจเหิมฮึก  คึกคะนอง  เดินร้องเพลง            เป็นนักเลง  ทะนงตัว  ไม่กลัวใคร
ดื่มสุรา  พอตาลาย  กลายเป็นยักษ์            ทศพักตร์  กุมกัณฑ์  ทันสมัย
สำแดงฤทธิ์  ให้คนกลัว  ทั่วเมืองไทย            ถอดหัวใจ  ไว้กับนาง  แม่กวางทอง

ไม่มีหัวใจ  ที่ตัว  ไม่กลัวตาย              มีทรัพย์สิน  มากมาย  ไม่เสียดายของ
ซื้อสุรา  มายกเนียง(ตุ่ม)  เลี้ยงพวกพ้อง         เป็นนักร้อง  มโนราห์  เชิญมารำ
ถ้างานตาย  ได้วัวควาย  แกล้มสุรา            มีโอชา  เชิดชู  ดูหึมหัม
ต้นไทรใหญ่  มีลูกดก  ไม่ตกต่ำ            พวกนักรำ  นักร้อง  ก้องกังวาน
ซื้อสุรา  เลี้ยงคนเมา  ให้เขายอ            หากไม่พอ  ต้องขายนา  ขายพร้าขวาน
ขายวัวควาย  ช้างม้า  มาให้ทาน            เพื่อต้องการ  ความสนุก  สุขเพลิดเพลิน
ผู้ให้ทาน  สุรา  ศรัทธามาก               ไม่กลัวยาก  คนเมา  เขาสรรเสริญ
ย่อมมีชื่อ  ลือนาม  ความเจริญ            หลงคำเยิน  คนเมา  เขาให้พร
เพราะคนเมา  เขาฉลาด  ย่อมปราชญ์ เปรื่อง         เขารู้เรื่อง  อยู่มากมาย  ไม่ใช่สอน

เป็นนักปราชญ์  ปรากฏ  เรื่องบทกลอน         กล่าวสุนทร  เมื่อยามเมา  ให้เราฟัง
มีเพลงบอก  มโนราห์  เพลงสากล              เพลงสุรพล  เพลงรำโทน  ทั้งโขนหนัง
แผดสำเนียง  จนเสียงแห้ง  หมดแรงดัง            ด้วยกำลัง  กตัญญู  เขาบูชา
กตัญญู  กตเวที  ไม่มีมาก               หาได้ยาก  ตามโอวาท  พระศาสนา
มีในขวด  แม่โขง  โรงสุรา               กัลยา  แม่กวางทอง  ร่วมท้องกัน
เขาดับทุกข์  ด้วยสุรา  น่าสงสาร            เข้านิพพาน  เมื่อยามเมา  เหมือนเขาฝัน
เขาสุขใจ  สุขกาย  สบายครัน            ปัจจุบัน  เข้านิพพาน  สำราญรมณ์
เมื่อหายเมา  เหมือนเราตื่น  ฟื้นจากหลับ         นิพพานดับ  หมดความสุข  ทุกข์ทับถม
นิพพานเมา  เปรียบเหมือนเต่า  นอนปลักตม         เขาชื่นชม  กันมากนัก  รักกันจริง

หนทางมรรค  บรมครู  ผู้ชี้แนะ            เขาไม่แวะ(หลีก)  ไม่ยอมฟัง  ทั้งชายหญิง
น่าเมตตา  ไม่หา  ที่พึ่งพิง               ยังหลงดิ่ง  ด้วยความเมา  เหมือนเต่าปลา
ย่อมเวียนวน  ไม่พ้น  ไปจากชาติ            ผู้ไม่เชื่อ  โอวาท  พระศาสนา
จิตยังมืด  จิตไม่เกิด  ซึ่งปัญญา            ไม่ศรัทธา  ไม่เคารพ  ไม่พบทาง
นึกสงสาร  พวกยังคลาน  ในที่มืด            หนทางยืด  ไม่พบแจ้ง  แสงสว่าง
จิตมืดมน  ต้องคลานจน  หัวเข่าด่าง            ย่อมอัปปาง  ทับถม  จมแผ่นดิน
เสียดายชาติ  พบโอวาท  ปราชญ์ยิ่งใหญ่         ยังหลงใหล  ความเห็นผิด  เป็นนิจสิน
เมื่อมองกาย  ยังไม่เห็น  เป็นมลทิน            หลงด้วยกลิ่น  รสแรง  เหมือนแมลงวัน
อวิชชา  ตัวตัณหา  พาให้หลง            มัวพะวง  จิตใจ  ในรูปขันธ์
เจอะร่างหอม  เฝ้าไต่ตอม  เหมือนแมลงวัน         ย่อมติดพัน  สืบพืช  ไปยืดยาว

พระบรมครู  ตรัสรู้  สู้สั่งสอน               ให้นิกร  รู้จำ  ธรรมดำขาว
ตัดราคะ  ตัดวัฏฏะ  หนทางยาว            ตัดรากเหง้า  ของความทุกข์  นั้นสุขจริง
ไม่ต้องเกิด  ไม่ต้องตาย  ทำลายขันธ์            ไม่แปรผัน  เป็นอย่างใด  ไปทุกสิ่ง
สุขที่เที่ยง  ไม่เอนเอียง  แน่แน่วนิ่ง            สุขอย่างยิ่ง  สุขนิพพาน  แหละท่านเอย  

        
หิริโอตัปปะ
   
สุภาษิต  เป็นคำเตือน  เพื่อนหลวงตา         ผมได้ยิน  คนนินทา  อยู่มากหลาย
ผมหลวงตา  ได้พิจารณา  ในร่างกาย            เกิดความละอาย  จึงเป็นห่วง  เพื่อนหลวงตา
ความละอาย  เป็นเครื่องหมาย  ของสมณะ         หิริโอตัปปะ  มีอยู่  คู่ผ้าเหลือง
ธรรมคู่นี้  มีราคา  ค่าควรเมือง            ความรุ่งเรือง  ศาสนา  ชั่วฟ้าดิน
เป็นพระเป็นชี  ไม่มี  เทวธรรม            จิตตำต่ำ  ไม่ละอาย  ทำลายศีล
ชนติเตียน  ผมผู้เขียน  เคยได้ยิน            เป็นมลทิน  ศาสนา  หลวงตาเอย

      
มีตาไม่อยากดู            มีหูไม่อยากฟัง
      
มีชื่อเสียงไม่อยากดัง         มีความมั่งคั่งไม่อยากรวย


เหตุผล  คนพาล
   
สมัยนี้พวกที่         เรียนรู้         ยิ่งกว่าผู้รู้แจ้งโลก
   
เขามีโชค            ชั้นพิเศษ         มีเหตุผล
   
ค้านภาษิต         พระตถาคต      พระทศพล
   
นึกน่ากลัว         มนุษยชน         คนทุกวัน
   
ผู้ทำดี            ได้ดี         กลับไปนรก
   
พวกทำความชั่ว         พวกโกหก      ไปสวรรค์
   
ฟ้ากลับเป็นดิน         ดินกลับเป็นฟ้า      น่าอัศจรรย์
   
รสหวานมัน         พุทธภาษิต      ผิดกันไกล
   
เขามาถามพระ         ที่โง่เขลา         ให้เราชี้
   
ที่คนทำดี            ได้ดี         มีที่ไหน
   
เขาว่าคนทำชั่ว         ที่ได้ดี         มีถมไป
   
ภาษิตใหม่         เหตุผล         ของคนพาล
   
คนทำชั่ว            แล้วกลับได้ดี      นี้น่าคิด
   
ค้านภาษิต         พระศาสดา      น่าสงสาร
   
นึกพองขน         ฟังเหตุผล      ของคนพาล
   
สร้างอาวุธ         ไว้ล้างผลาญ      ประหารตน
   
เขาเฉลียวฉลาด         พวกนักปราชญ์      เด็กวัยรุ่น
   
เขากลัวบุญ         ไม่อยากสร้าง      ทางกุศล
   
สร้างบาปกรรม         สร้างความชั่ว      ให้กับตน
   
เกิดเป็นคน         ต้องวิบัติ         ขัดตำรา
   
มนุษยชน            เกิดเป็นคน      ทวนกระแส
   
ไม่รู้จักบุญคุณ         ของพ่อแม่      ผู้รักษา
   
แม้ว่าจะเป็น         ผู้ประเสริฐ      เลิศโลกา
   
ขัดคำสอน         พระศาสดา      ทุกประการ
  
         
คนใจบุญ         ไม่ชอบทำบาป
      
คนใจบาป         ไม่ชอบทำบุญ
      
คนเนรคุณ         คนอกตัญญู


ภายในร่าง  เจอะทางมรรค
   
ตัวตัณหา  มีคุณค่า  เพราะความอยาก         มีพิษมาก  ลุกเป็นไฟ  ใครไม่เห็น
ไฟเผาขันธ์  คันแล้วเกา  เผาคนเป็น            จิตตื่นเต้น  ด้วยรูปนาม  เมื่อยามเมา
ความเห็นผิด  จิตเชื่อตา  พาให้หลง            มองรูปทรง  ว่าสวยงาม  เพราะความเขลา
ด้วยอำนาจ  ความเห็นผิด  ฤทธิ์ความเมา         หลงชมเงา  ของผิวหนัง  เมื่อยังเป็น
หลงว่าหอม  แมลงวันตอม  ไม่ยอมเชื่อ            ร่างน่าเบื่อ  เสียแท้แท้  แต่ไม่เห็น
ทุกทุกอย่าง  ภายในกาย  ของคนเป็น            แมลงวันเห็น  เขาอุตสาห์  พยายาม
พีหรือผอม  แมลงวันตอม  ไม่ยอมละ            แม้เป็นพระ  เขายังมอง   ไม่ต้องถาม
ผมฝึกจิต  เป็นลูกศิษย์  คอยติดตาม            เพียรพยายาม  หมดเคลือบแคลง  เหมือนแมลงวัน
เห็นของจริง  ภายในร่าง  เจอะทางมรรค         คลายความรัก  เรื่องสวยงาม  ตัวกามฉันท์
หลวงพ่อเปลื้อง  เปลื้องแล้วปลด  หมดความคัน         ผู้เชื่อมั่น  รีบฝึกตน  ทุกคนเทอญ


พิษของตัณหา
   
ตัณหา  มีคุณค่า  เพราะความอยาก         มีพิษมาก  อยู่ภายใน  ไม่ใคร่เห็น
ไฟเผาขันธ์  คันแล้วเกา  เผาคนเป็น            จิตตื่นเต้น  เห็นรูปนาม  เมื่อยามเมา
ความเห็นผิด  จิตเชื่อตา  พาให้หลง            เห็นรูปทรง  ว่าสวยงาม  เพราะความเขลา
หลงด้วยรส  หวานมัน  คันแล้วเกา            พิษความเมา  หุ้มห่อจิต  ปิดหนทาง


แด่เพื่อนหลวงตา
   
ผู้ที่กลัว  กิเลสผอม  ไม่ยอมละ         บวชเป็นพระ  อยู่จนตาย  ย่อมไร้ผล
ค้นหาธรรม  ไม่เจอะธรรม  จำต้องจน            กลายเป็นคน  กิเลสหนา  ลูกตาฟาง
กิเลสอ้วน  จิตเรรวน  เพราะความอยาก         น้อยหรือมาก  กรรมวิบัติ  คอยขัดขวาง
เพราะลาภยศ  สรรเสริญสุข  ทุกทุกอย่าง         ปิดหนทาง  ไม่เห็นธรรม  พระสัมมา
บรรพชิต  จิตไม่คลาย  เพราะไม่เห็น            ผู้บำเพ็ญ  ไม่เข้าใจ  ไตรสิกขา
ทำให้มาก  ดับความอยาก  เกิดปัญญา         เพียรภาวนา  ดับไฟ  ภายในตน
ไฟภายใน  เผาจิตใจ  ต้องการเชื้อ            ไม่ยอมเบื่อ  ลุกลาม  ตามเหตุผล
ผู้ไม่เชื่อ  พุทธพจน์  พระทศพล            ต้องเวียนวน  ทุกข์ระทม  กันนมนาน
น้อยกับมาก  ยากกับง่าย  อยู่ใกล้ชิด            ถูกกับผิด  ชั่วกับดี  มีหลักฐาน
ผู้ฝึกตน  ไม่อดทน  ต้องแพ้มาร            จิตเป็นพาล  เพราะประมาท  ขาดศีลธรรม
พุทธวาจา  มีคุณค่า  เมื่อเราเชื่อ            มองเลือดเนื้อ  จิตปลดเปลื้อง  เป็นเรื่องขำ
เห็นวัตถุ  ภายในกาย  กลายเป็นธรรม            ทุกทุกคำ  พระท่านตรัส  สวัสดี
รสพระธรรม  ไม่ตกต่ำ  คือความเค็ม            เราเป็นด้าย  ไม่ตามเข็ม  ตายเป็นผี
ครองผ้าธง  เมื่อจิตคด  หมดความดี            เป่าแต่ปี่  ให้คนฟัง  หวังความรวย
เนื้อนาบาป  บวชหวังลาภ  นั้นเป็นพิษ            เผาผลาญจิต  ด้วยลาภยศ  หมดความสวย
บวชเป็นลูก  ตถาคต  หมดความรวย            บุญชูช่วย  อุปถัมภ์  ธรรมคุ้มครอง
หมดความรวย  รูปไม่สวย  แต่เป็นสุข            ไม่ต้องทุกข์  จิตคงที่  ไม่มีสอง
ผู้ที่เชื่อ  พระพุทธองค์  จงทดลอง            จิตเป็นทอง  ไม่ยากจน  คนบูชา
เราควรจำ  ภาษิตธรรม  คำสุดท้าย            ท่านตรัสไว้  ยามดับขันธ์  ยอดปัญหา
ธรรมสูงสุด  เป็นยอด  พุทธวาจา            ยอดปัญญา  ตรัสรู้  คู่ผ้าธง
ยอดคำสอน  ตอนพลัดพราก  ไปจากญาติ         ตรัสโอวาท  ครั้งสุดท้าย  ไว้ในสงฆ์
อย่าประมาท  ผู้ครองบาตร  ครองผ้าธง         สืบเชื้อวงศ์  ศาสนา  ให้ถาวร
เมื่อไม่ประมาท  โอวาท  ก็ศักดิ์สิทธิ์            ผูกมัดจิต  อยู่ในธรรม  คำสั่งสอน
เมื่อไม่ประมาท  โอวาท  ไม่ขาดตอน            หลักคำสอน  พระพุทธองค์  เป็นธงชัย
ธรรมทั้งหลาย  จะรู้ได้  เฉพาะตน            ย่อมให้ผล  ทุกยุค  ทุกสมัย
ตรงตามคำ  ธรรมฝึกศิษย์  จิตฝึกใจ            จิตผ่องใส  จิตบำเพ็ญ  จิตเห็นธรรม
จิตเห็นธรรม  จิตเห็น  พระตถาคต            พุทธพจน์  พระท่านชี้  มีหลักฐาน
ตรัสทุกสิ่ง  เป็นความจริง  ทุกประการ            ทุกทุกท่าน  รู้ด้วยตน  ทุกคนเทอญ

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น

โปรดแสดงความคิดเห็นด้วยเมตตาธรรม

บทความที่ได้รับความนิยม