วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2557

อธิษฐาน - ฝันบอกเหตุ..ชี้นำ




นิมิตน่าอัศจรรย์

ความฝันที่ชอบคือ.. (เป็นความฝันที่จำไว้ในใจ ไม่ได้บันทึกไว้ตั้งแต่ฝันใหม่ๆ)ตอนที่ตั้งจิตอธิษฐานหลังไหว้พระสวดมนต์ เสร็จ.. (ประมาณปี ๔๖ หรือ ๔๗ จำไม่ได้ชัดเจน แต่คิดเอาว่าน่าจะเป็น ๒๕๔๗) ว่า

หาก ข้าพเจ้าจะได้ถึงที่สุดแห่งทุกข์ในเพศฆราวาส ขอให้ได้นิมิตน่าอัศจรรย์ หรือได้ฝันเหตุเรื่องน่าอัศจรรย์ ..ได้สนทนาธรรม พอให้รู้ความหมายได้ภายใน ๓ วัน ๗ วัน

ฝันว่า ได้เข้าสู่สมรภูมิรบในคฤหาสน์อันใหญ่โต คนฆ่ากันตายหมด เหลือรอดเราผู้เดียว พอออกจากที่แห่งนั้น เงยหน้าบนฟ้า เอามือทำเหมือนว่ายน้ำ แล้วค่อยๆลอยขึ้นไปบนฟ้า จนได้ยินกระแสเสียงเทศน์องค์หลวงปู่มหาบัว แล้วลอยเข้าไปใกล้ จนลอยบนกลางอากาศอยู่ในท่าเทพพนม

พอฟังธรรมเสร็จ ก็ลงไปเห็นผู้นุ่งขาวห่มขาว ในจิตบอกว่า ชั้นดาวดึงส์ แล้วตาเหลือบไปเห็นผู้หญิงสวยงามมาก นอนอยู่ในชุดส่าหรีสีแดง มีสตรีบริวารแวดล้อม

จิตบอกว่า พระนางสิริมหามายา
ด้วยความเคารพ จึงเดิน แล้วคลานเข่าเข้าไป พร้อมก้มลงกราบ
กราบครั้งที่ ๑ พระองค์สะอื้นร่ำไห้
กราบครั้งที่ ๒ พระองค์ก็สะอึกสะอื้นร่ำไห้อีก
กราบครั้งที่ ๓ พระองค์ก็สะอื้นร่ำไห้

ได้แต่เคารพ..เกรงพระทัย ไม่กล้าแม้แต่จะกราบเรียนถามว่า พระองค์เป็นอะไรไปหรือ

ได้แต่คลานเข่าถอยออกมา แล้วลุกขึ้นยืน ในจิตบอกว่า ไม่ใช่ที่ๆ เราจะอยู่

พอแหงนขึ้นบน ปรากฏลอยฉิว..ละลิ่วไปโดยที่ไม่ต้องทำมือเหมือนทีแรก แล้วได้ยินเสียงเทศน์หลวงตา จึงตามเสียงไปอีก

นั่ง ท่าเทพพนม ลอยตัวอยู่บนอากาศ ฟังเทศน์หลวงตาเสร็จ ก็ลอยลงมา เหมือนเขาจัดให้ทำที่บังสุกุล ได้ผ้าพับเป็นไม้ วางไว้สำหรับชักบังสุกุล ในจิตก็บอกว่า ไม่ใช่ที่ๆเราจะอยู่ แล้วลอยลิ่ว

เหมือนมีใครมาเกาะที่ขา เราสลัดร่วงไป มิให้ใครไปกับเราได้

ตื่นขึ้นมา รู้แต่ว่าฝันเป็นอัศจรรย์ โดยเฉพาะเหมือนท่านมาเทศน์ให้ฟัง รู้สึกเหมือนจริงเหลือเกิน ก็บอกแต่ว่านี่ฝัน ไม่ใช่ความจริง

ได้แต่ปลื้มในใจ แล้วปฏิบัติธรรม ด้วยความมั่นใจเต็มร้อย ว่าเราจะสามารถผ่านพ้นได้..ในเพศฆราวาส

ต่อมา ฝันที่ ๒  ได้สนทนาธรรมกับพระอาจารย์มหาตี๋ (ศิษย์หลวงตา และเคยเรียนจบมหามกุฏด้วยกันกับตน) หลังจากสนทนาธรรมเสร็จ ก็ออกบิณฑบาต แต่ไม่ได้อาหารอะไรมา ในใจ(ขณะฝัน)คิดว่า ไม่ได้ก็ไม่ฉัน เห็นพื้นดินเปียก ยังกับว่าฝนเพิ่งหยุดตกใหม่ๆ วัดก็เหมือนอยู่บนเชิงเขา  หลวงตา(หลวงปู่มหาบัว) ก็ออกตรวจวัด  ส่วนตน ก็จะเดินลงไปที่แห่งหนึ่ง ซึ่งสูงชัน แต่จิตก็จะลงไป ไม่ได้สนใจว่าข้างล่างจะมีอันตรายใดๆหรือไม่ กลายเป็นว่า พอลงไป ได้ลื่นไถลไปกับลำไม้ไผ่ใหญ่ขนาดเท่าโคนขา พาดเฉียง ทำให้ลงสู่ข้างล่างได้อย่างปลอดภัย

ฝันที่ ๓ พาครอบครัวลงเดินลงไปจากเขา (เหมือนบ้านอยู่บนเขา) ปลีกจากพวกเขา แล้วขึ้นไปดาดฟ้าเรือ  ซึ่งมีเชือกโรยลงมา รู้แต่ว่าจะขึ้นไปข้างบน พอจับเชือกได้ กำลังจะไต่ เหมือนมีผู้คอยบอกให้ขึ้น..เป็นกำลังใจให้ขึ้นไป พอขึ้นไปได้สักหน่อย ก็ตื่นจากฝัน

ฝันทั้ง ๓ ครั้ง ยิ่งเป็นเหตุมั่นใจอย่างแน่วแน่ มีแต่ตั้งสัจจอธิษฐานในการทำความเพียร ..

นี่ก็เป็นเพียงความฝัน... แต่การปฏิบัติตนอยู่ที่เราผู้ดำเนินตามธรรมของพระบรมศาสดา..สัมมาสัมพุทธเจ้า

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น

โปรดแสดงความคิดเห็นด้วยเมตตาธรรม

บทความที่ได้รับความนิยม