วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552

ลำนำของใจ


กล่าวลำนำ ล้ำค่า บ้างได้ไหม

พูดเรื่องใจ ไขปัญหา ปัดสิ่งข้อง
นำหลักธรรม นำปฏิบัติ ธรรมครรลอง
เปลื้องสิ่งข้อง พบค่าล้ำ ใจปลงเบา

จะดูรู้ ดูรัก พักสักหน่อย
จะปลดปล่อย ได้ไหม เจ้าใจเอ๋ย
ช่างยื้อยุด ฉุดกระชาก หนักใจเอย
เพราะความเคย ตามใจฉัน มานมนาน

พูดถึงเรื่อง ความรัก ชักติดขัด
เหมือนกับมัด หัวใจ ให้ติดเหนี่ยว
ติดตุ๊บตั๊บ ล้านใจ ฟั่นเป็นเกลียว
จึงข้องเกี่ยว หลงใจ ไปไม่เป็น

เพราะสิ่งข้อง สิ่งคา มีมาพร้อม
อวิชชาห้อม ล้อมไว้ ให้แน่นหนอ
จึงฝ่าออก ยากลำบาก จนใจท้อ
แต่ก็พอ ฝ่าออกได้ ด้วยพระธรรม

พระพุทธองค์ ทรงปั่นล้อ ธรรมจักร
เพราะทรงหัก กรงกรรม ดุจจักร์ผัน
สั่งสอนศิษย์ ผู้ใฝ่รู้ ออกจากมัน
ให้เท่าทัน อวิชชา พังจากใจ

นี่แหละหนอ เรื่องของใจ ใช่ว่าเล่น
แต่จะเห็น ได้อย่างไร ถ้าไม่นิ่ง
สมาธิ ดิ่งลงได้ ไม่ไหวติง
เป็นจิตนิ่ง ดิ่งเด่นดวง ผ่ารวงรัง

รวงรังภพ วัฏฏจักร หมุนใจสัตว์
สารพัด ล่อหลอก ให้ใจหลง
แต่องค์พระ สอนใจได้ จนรู้ปลง
จึงได้ทรง ช่วยผู้อื่น ได้ปลงตาม

นี่แหละหนา พระคุณ อันยิ่งใหญ่
ที่มีใจ ผู้พ้นได้ ช่วยสั่งสอน
กล่าวลำนำ เป็นกลอน เป็นบทตอน
เพื่อจะสอน ตามพระธรรม พระศาสดา

อันเรื่องศีล สมาธิ ปัญญาพร้อม
ทำใจน้อม ยอมรับ ดุจรักแท้
จะซื่อสัตย์ รักรื้อภพ ไม่ผันแปร
ถึงจะแก่ จวบสิ้นลม มุ่งนิพพาน

องค์พุทธะ อนุพุทธ ผุดรื้อโลก
ให้หมดโศก หมดภัย ในสงสาร
เกิด-แก่-เจ็บ ม้วยมรณ์ สอนเด็กคลาน
หรือเป็นท่าน ผู้แก่เฒ่า เฝ้าคิดเอา

หากยังรู้ เดียงสา ยังน่าคิด
แม้บัณฑิต เป็นได้ แต่ยังอ่อน
สอนเรียกพ่อ เรียกแม่ แม้ยังนอน
เป็นเพราะสอน ซ้ำซาก เพื่อย้ำเตือน

เติบโตมา กับคำสอน เฝ้าพันผูก
เพื่อให้ลูก ได้รู้คำ เสียงเรียกขาน
อันสมมุติ เรียนรู้กัน เพื่อสื่อสาร
เป็นตำนาน สอนกันมา แต่นานกาล

เมื่อเติบใหญ่ ท่านก็สอน ให้รู้ว่า
ผิดหรือถูก นั่นหนา เน้นเหตุผล
ประกอบบท ขยายความ อุปมาปน
ปะปนจน แจ้งแจ่มชัด ชัดหัวใจ

เมื่อรู้ผิด ก็ให้ละ อย่าทำอีก
ขอให้หลีก เส้นทาง ตามที่สอน
หลีกคนพาล คบบัณฑิต พึ่งพิงก่อน
นี่คือตอน สำคัญ รู้คบคน

คบคนใด ย่อมเป็น เช่นคนนั้น
ปลูกเผือก-มัน ก็ย่อมได้ เผือก-มันแน่
เหตุกับผล คู่กัน ไม่ผันแปร
สุดแท้แต่ จะลงเอย กันอย่างไร

อันคำพระ มีมากมาย มากเหลือล้น
คัดเลือกคำ เหมาะกับตน ให้ได้หนอ
แม้บทธรรม- หนึ่งรู้ได้ นั่นแหละพอ
เมื่อใจพอ กับทุกสิ่ง ยิ่งสบาย

ไม่มีสิ่ง กดถ่วง ให้ใจติด
ดุจยาพิษ จางหาย กายสดใส
จะเดินเหิร ทำทุกสิ่ง ไม่ทุกข์ใจ
มีอะไร ก็ไม่ห่วง ทรวงอกเบา

นี่แหละหนอ ท่านว่าตน พึ่งตนได้
จึงมีใจ ช่วยผู้อื่น ให้พึ่งบ้าง
บอกสิ่งรู้ ให้ลดละ เพียรปล่อยวาง
ได้สะสาง อุปาทาน ออกจากใจ

-----------------------------------

อภิภโว ภิกขุ
(พระชินวัฒน์ พองศรี ป. ๗ ศนบ. รุ่นที่ ๔๐ แห่งมมร.)

25 มิ.ย. 2551 เวลา 23.35 น.

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น

โปรดแสดงความคิดเห็นด้วยเมตตาธรรม

บทความที่ได้รับความนิยม